2009-05-23

อ่านใจสุนัข

การอ่านใจสุึนัขจากลักษณะที่เห็น

สุนัขสบอารมณ์:
 เป็นสุนัขที่มีลักษณะเป็นมิตร จิตใจขณะนั้นกำลังเบิกบาน อารมณ์ปกติดี รับแขก สุนัขจะแสดงท่าทางตามสบายหรือไม่เกร็งตัว หางทอดลงตามสบาย ยกหัวตั้งสูง เผยอปากเล็กน้อย อาจมีลิ้นแผลมห้อยออกมาข้างใดข้างหนึ่ง

สุนัขชวนเล่น: การเล่นของสุนัขนั้นจะเกิดขึ้นอยู่เสมอในชีวิตประจำวัน เมื่อมีอารมณ์เบิกบาน ลักษณะการชวนเล่น คือ หมอบส่วนหน้าและเหยียดขาคู่หน้าออกไป โดยขาคู่หลังยังยืนอยู่ คล้ายๆ คนเราหมอบแต่ก้นโด่งนั่นแหละ พร้อมกันนี้ก็จะแกว่งหางไปมา จากนั้นจึงกลิ้งตัวทางด้านข้าง ซ้าย ขวาสุดแท้แต่ใจหรือเอียงคอเอาหน้าแนบพื้น สายตาจะจับจ้องมองมายังผู้ที่เขาเชิญชวน ปากอ้าเล็กน้อย บางครั้งก็จะทำท่าแบบนี้แต่เขยิบเข้า และถอยออกจากผู้ที่เขาสนใจ ถ้าท่านเห็นแบบนี้แสดงว่าสุนัขเห็นท่านเป็นเพื่อนเล่น ยอมไว้ใจแล้ว

สุนัขหงอ: จากท่าสุนัขชวนเล่นที่กล่าวไปแล้ว หากสุนัขย่อขาคู่หลังเตี้ยลงเรี่ยพื้น ใบหูหลุบไปข้างหลัง หุบปากสนิท หางตกหยุดแกว่ง อาจส่งเสียงครางหงิงๆ หยุดนิ่งกับที่และอาจนอนตะแคงลงต่อไป เห็นท่านี้หมายความว่าเขา "หงอ" ยอมจำนน

สุนัขขี้แพ้: ขี้กลัว ท่านคงเคยสังเกตเห็นสุนัขที่นอนหงาย หางจุกระหว่างขา (จุกตูด) ยกคอขึ้นแต่หน้าคุ้มลง หูยกขึ้นเล็กน้อย ขาคู่หน้างอเข้าเล็กน้อย นี่เป็นท่าแสดงการยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไข ไม่ว่าจะกับสุนัขด้วยกัน หรือคนก็ตาม ซึ่งบางตัวก็กลัวจัดชนิดขี้ขึ้นสมอง อาจฉี่เรี่ย ฉี่ราด ขี้แตก ออกมาด้วย

สุนัขกร้าวเพราะกลัว สุนัขแยกเขี้ยว: มิใช่ว่าจะดุหรือเข้ามาทำร้ายเสมอไป มีสุนัขบางอยู่ประเภทหนึ่งที่แสดงอาการกลัวออกมาโดยใช้ท่าทีก้าวร้าว คือ ย่อตัวเล็กน้อย ลำตัวเกร็ง ขนหลังตั้งชัน หางเหยียดตรงหยุดนิ่ง หูหลุบไปข้างหลัง อ้าปากจนเห็นฟัน คอก้มเสมอลำตัวมองพุ่งตรงไปข้างหน้า เห็นอย่างนี้อย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยว สักพักเขาจะค่อยๆ เลี่ยงหลบไปเอง

หมาเจ้าพ่อ: เป็นสุนัขเจ้าถิ่น สุนัขหัวโจก คุมฝูงในพื้นที่หรือมีความหวงถิ่นฐานบ้านช่อง จึงแสดงท่าทางออกมาเพื่อสื่อให้ผู้พบเห็นรู้ว่า "ข้าเป็นเจ้าของพื้นที่ สมบัติและลูกน้องเหล่านี้ ห้ามแตะต้อง" ลักษณะท่าทางคือ หางยกตั้งสูง หูตั้ง คอตั้ง อ้าปากแสยะเขี้ยว มองพุ่งตรงมายังผู้ที่เขาจะสื่อด้วยพร้อมกับเดินย่างสามขุม สี่ขุม เข้ามาอย่างไม่เกรงกลัว เพื่อกัดต่อไป เห็นอย่างนี้เตรียมทางหนีทีไล่

เสียงเห่าของสุนัข...บอกเราว่าอะไร

คนที่เลี้ยงสุนัขคงอยากให้ สุนัขตัวเองพูดภาษาคนได้เพราะจะได้รู้ว่าสุนัขที่เราเลี้ยงอยู่ต้องการอะไร...
ชอบอะไร คิดอะไรแทนที่จะสังเกตุทีท่าทางต่างๆที่เจ้าตูบจะแสดงออกมา ในคนเราใช้การพูดเป็นการสื่อสารในสุนัขก้อเช่นกัน การเห่าคือการสื่อสาร ซึ่งสังเกตุได้ว่าในการเห่าแต่ครั้ง โดยจะมีโทนเสียงที่ต่างกัน มีสั้นยาวไม่เท่ากันด้วย นอกจากนี้ความถี่และจำนวนครั้งที่แตกต่างกันยังกลายมาเป็นคำพูดที่ใช้สื่อสารให้คุณรู้อีกด้วย

การเห่าสั้นๆ 2-3 ครั้ง: เป็นการทักทายกันยามปกติ เช่นเมื่อคุณกลับเข้าบ้าน หรือเมื่อเจอกันตอนเช้าหลังตื่นนอน เป็นต้นแปลความหมายได้ว่า "สวัสดีเจ้านาย"

การเห่าเป็นชุด ... ชุดละ 3-4 ครั้ง แล้วหยุดเป็นระยะ: เป็นการชักชวนให้คุณมาดูอะไรบางอย่าง แปลความหมายได้ว่า "มาดูอะไรนี่สิ"

การเห่าเร็วๆติดๆ: เป็นการเตือนภัยว่าจะมีอะไรเข้ามาใกล้ หรือในเวลาที่หมาน้อยมองเห็น ได้กลิ่นของคนแปลกหน้า มีความหมายว่า "ระวังนะ!!! กำลังมีอันตรายเข้ามาใกล้เราแล้ว!!!" แต่ถ้าโทนเสียงต่ำๆติดๆ ละก็มีความหมายว่า "อันตรายมาถึงแล้วนะ" หรือ เป็นการขู่คนร้ายว่า "อย่าเข้ามานะ เดี๋ยวกัดเลย"

การเห่าแล้วหยุด เห่าแล้วหยุด ติดต่อกันเป็นเวลานาน: เป็นการบอกว่า "เหงาจัง"มาเล่นเป็นเพื่อนหน่อยซิ

การเห่าครั้งเดียวสั้นๆ: หากคุณหรือใครอื่นกำลังยุ่งวุ่นวายกะเค้าอยู่แล้วมีการเห่าสั้นๆขึ้นนั้น มีความหมายว่า "รำคาญนะ อย่ามายุ่ง อยากอยู่คนเดียว" แต่ถ้าไม่มีใครวุ่นวายกะเค้าอยู่ละก้อมีความหมายว่า "อยากเข้าห้องน้ำ หรือหิวแล้วจ้า"

การเห่าติดต่อกันนานๆ: ถ้าเป็นลูกสุนัขไม่มีอะไรมากหรอก แค่ต้องการให้คุณอยู่ใกล้ๆและสนใจเค้าตลอดเวลาประมาณว่าออดอ้อนอะไรประมาณนั้น

การเห่ารัวๆและดังขึ้นเรื่อยๆ: เป็นการบ่งบอกว่าเค้าตื่นเต้น กำลังสนุกจริงๆ

No comments:

Post a Comment